วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week 4 : โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ (C)


                 ภาษาคอมพิวเตอร์คืออะไรเป็นสิ่งที่ผมสงสัยตอนเห็นหัวข้องานเขียนblogของผม ผมจึงได้ทำการอ่านเเละศึกษามาเเบบผ่านๆอย่างคร่าวๆคือ ภาษา ที่ผู้ใช้งานใช้สื่อสารกับคอมพิวเตอร์ แล้วคอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่งได้ จริงๆเเล้วโปรเเกรมต่างๆก็เป็นสิ่งที่เขียนจากภาษาคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น ภาษาคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือ ภาษาระดับสูง เเละ ภาษาระดับต่ำ ซึ่งภาษาระดับสูงถูกออกเเบบมาให้ใช้งานง่าย กว่าภาษาระดับต่ำ ภาษาคอมพิวเตอร์แบ่งกลุ่มได้เป็นอีกสองประเภทคือ ภาษาที่มนุษย์อ่านออกและภาษาที่มนุษย์อ่านไม่ออก โดยภาษาที่มนุษย์อ่านออกถูกออกแบบมาเพื่อให้มนุษย์สามารถเข้าใจและสื่อสารได้โดยตรงกับคอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาที่มนุษย์อ่านไม่ได้จะมีโค้ดบางส่วนที่ไม่อาจอ่านเข้าใจได้ เเต่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจโค้ดได้

www.postfree108.com
                          ภาษาcเป็นภาษาในการเขียนโปรเเกรมพื้นฐาน สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างเช่น ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ทางคณิตศาสตร์ โปรแกรมทางไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งถ้าจะพูดถึงภาษาcในตอนนี้คงมีเเค่ใครไม่กี่คนที่รู้จักรวมถึงผมด้วย เพราะมัน เก่าเกินกว่าจะสนใจเเต่ควรศึกษาภาษาซีที่เป็นต้นฉบับของหลายภาษาอื่นๆก่อนเพราะภาษา C++จาวา (Java) ฯลฯ เป็นระบบที่พัฒนาจากภาษาcเช่นกัน
             ภาษาซีเป็นภาษาที่บางคนเรียกว่าภาษาระดับกลาง คือไม่เป็นภาษาระดับต่ำแบบแอสเซมบลีหรือเป็นภาษาสูงแบบ เบสิค โคบอล ฟอร์แทรน หรือ ปาสคาล เนื่องจากคุณสามารถจะจัดการเกี่ยวกับเรื่องของพอยน์เตอร์ได้อย่างอิสระ และบางทีคุณก็สามารถควบคุมฮาร์ดแวร์ผ่านทาง ภาษาซี ได้ราวกับคุณเขียนมันด้วยภาษาแอสเซมบลี ด้วยข้อดีเหล่านี้เองทำให้โปรแกรมที่ถูกเขียนด้วยภาษาซีมีความเร็วในการปฏิบัติงานสูงกว่าภาษาทั่วๆไป แต่ก็ต้องแลกกับการเรียนรู้และการฝึกฝนอย่างหนัก

ประวัติภาษาซี
ภาษาซีเป็นภาษาที่ถือว่าเป็นทั้งภาษาระดับสูงและระดับต่ำ ถูกพัฒนาโดยเดนนิส ริดชี (Dennis Ritche) แห่งห้องทดลองเบลล์ (Bell Laboratories) ที่เมอร์รีฮิล มลรัฐนิวเจอร์ซี่ โดยเดนนิสได้ใช้หลักการของภาษา บีซีพีแอล (BCPL : Basic Combine Programming Language) ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยเคน ทอมสัน (Ken Tomson) การออกแบบและพัฒนาภาษาซีของเดนนิส ริดชี มีจุดมุ่งหมายให้เป็นภาษาสำหรับใช้เขียนโปรแกรมปฏิบัติการระบบยูนิกซ์ และได้ตั้งชื่อว่า ซี (C) เพราะเห็นว่า ซี (C) เป็นตัวอักษรต่อจากบี (B) ของภาษา BCPL ภาษาซีถือว่าเป็นภาษาระดับสูงและภาษาระดับต่ำ ทั้งนี้เพราะ ภาษาซีมีวิธีใช้ข้อมูลและมีโครงสร้างการควบคุมการทำงานของโปรแกรมเป็นอย่างเดียวกับภาษาของโปรแกรมระดับสูงอื่นๆ จึงถือว่าเป็นภาษาระดับสูง ในด้านที่ถือว่าภาษาซีเป็นภาษาระดับต่ำ เพราะภาษาซีมีวิธีการเข้าถึงในระดับต่ำที่สุดของฮาร์ดแวร์ ความสามารถทั้งสองด้านของภาษานี้เป็นสิ่งที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ความสามารถระดับต่ำทำให้ภาษาซีสามารถใช้เฉพาะเครื่องได้ และความสามารถระดับสูง ทำให้ภาษาซีเป็นอิสระจากฮาร์ดแวร์ ภาษาซีสามารถสร้างรหัสภาษาเครื่องซึ่งตรงกับชนิดของข้อมูลนั้นได้เอง ทำให้โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาซีที่เขียนบนเครื่องหนึ่ง สามารถนำไปใช้กับอีกเครื่องหนึ่งได้ ประกอบกับการใช้พอยน์เตอร์ในภาษาซี นับได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการเป็นอิสระจากฮาร์ดแวร์

อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ใน Credit

Credit : http://lamplaimat.ac.th/cpp/?p=24

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558

SOCIAL NETWORK กับนักเรียนและสังคมไทย

               
                    ในปัจจุบันคำว่าโซเชียลเน็ตเวิร์คคงคุ้นหูคนไทยเเละสังคมไทยอย่างเเน่นอน   ยิ่งสำหรับนักเรียนด้วยเเล้วคงไม่มีนักเรียนคนไหนไม่รู้จัก มันคือสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับใครบางคนในสมัยนี้ เเน่นอนรวมถึงผมด้วย ผมเชื่อว่าคนไทยหลายคนใช้เวลาอย่างน้อย1ชั่วโมงของวันไปกับการใช้งานมัน ไม่ว่าจะเป็นติดตามข่าวสาร ติดต่อเพื่อนก็สามารถใช้มันได้อย่างรวดเร็วสะดวกสบาย
               โซเชียลเน็ตเวิร์คในสังคมไทย ผมมองว่าเป็นดาบสองคมคือมีประโยชน์เเละโทษในตัวมันเอง
ประโยช์ของมันก็เป็นการติดต่อ สื่อสารกับบุคคลอื่นอย่างรวดเร็ว มีข่าวให้ติดตามมากมาย เเต่สิ่งที่เป็นโทษนั้นก็คือ การติดต่อบุคคลอื่นได้อย่างง่ายดายเกินไปอาจทำให้ โดนมิจฉาชีพหลอกลวงได้ เเละที่สำคัญคือมีข่าวที่อาจไม่เป็นจริง ควรใช้วิจารณญาณในการเสพข่าจากสื่อออนไลน์ อย่าไปเชื่อข่าวที่ไม่มีมูลความจริง ไม่มีที่มา อ้างอิง เเน่นอนถ้าคุณเป็นคนที่ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คคงเคยเจอทั้งสิ่งทีดีมีเเละไม่ดีในการใช้มันอยู่ตลอดเวลาโดยเลี่ยงไม่ได้ ผมจึงมองว่ามันมีผมเสียมากกว่าผลดีในสังคมไทย

              สำหรับนักเรียนอย่างผมการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค อย่างมีประโยชน์คือติดตามข่าวสารที่มีประโยชน์กับตัวผมเช่นการสอบตรง เเละ ติดตามสิ่งที่ผมชอบหลายๆอย่าง ส่วนสิ่งที่ไม่ดีก็น่าจะรู้ๆกันนะ

ปล.blogก็ถือเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คนะครับ

ทีมา : พิมพ์เองครับ
   

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558

สิ่งที่นักเรียนสนใจ1

 



Hearthstone Heroes of Warcraft

     จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเหล่า Character สุดฮิต และ Monster สุดโหดจากเกมชื่อดังอย่าง World of Warcraft และ DotA ถึงผนึกลงการ์ด จากผู้สร้างเกมสุดฮิต และได้สานต่อความมันลงในรูปแบบการ์ดเกม กับเกมที่มีชื่อว่า HearthStone เกมการ์ดที่มีความสนุกสนานฉีกทุกการ์ดเกมที่เคยมีมา รูปแบบเกมนั้นเป็นเกมการ์ดที่ต้องเชื่อมต่อเน็ตอยู่ตลอดเวลานะครับ ไม่ว่าจะเล่นกับเกม หรือผู้เล่นด้วยกันก็ตาม

iPad Screenshot 2
เเน่นอนมันคือสุดยอดเกมฟรีที่เสียตังค์สุดๆ เกมนึง 555+
เป็นเกมที่สามารถเล่นได้ใน PC และ Tablet ทุกกลุ่มเกมครับ สนุกอย่าบอกใครเลย
iPad Screenshot 3
เพิ่มคำอธิบายภาพ
เกม Hearthstone นี้ระบบการเล่นไม่ยากครับ รูปแบบเกมเป็นแบบ Turn by Turn โดยผลัดกันเล่น คล้ายๆ เกมการ์ดทั่วไป โดยเราเลือกเป็นฮีโร่ได้ 9 แบบ จากนั้นก็เล่นกับคนอื่น หรือเล่นเดี่ยวๆ เพื่อปลดล็อคการ์ดก็ได้ครับและการ์ดสามารถซื้อได้หรือชนะได้เงินในเกมก็เอาไปเติมจับซองได้ 1 ซองมี 5 ใบ เป็นแรร์อย่างน้อย 1 ใบครับ






โดยเริ่มเล่นกติกาจะมีการ์ดคนละ 30 ใบ จั่วมาเริ่มเกมสามใบสามารถเลือกไว้ได้ตามใจกี่ใบก็ได้ หรือขอจั่วใหม่ตามนั้น คนเริ่มก่อนจะได้จั่วเลย ถ้าเริ่มทีหลังจะได้การ์ด Coin หรือ มานาเพิ่มแบบใช้แล้วทิ้ง 1 ใบเกมนี้ใช้ระบบมานาแบบตานึงเมื่อเริ่มตาจะได้ 1 เม็ด ไปเรื่อยๆ สูงสุด 10 เม็ด ผลัดกันเล่นเรื่อยๆ จนกว่าจะชนะกันได้

ฮีโร่แต่ละตัวความสามารถจะแตกต่างกันไป ค่อนข้างมาก เช่นสามารถยิงใส่ศัตรูได้ สามารถเพิ่มเลือดตัวเองเป็นต้น
ถ้าเพื่อนสนใจเล่นสามารถเข้าไปตามLinkนี้เลยครับ http://us.battle.net/en/int?r=hearthstone

วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เทคโนโลยีกับชีวิตประจำวันของนักเรียน

เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันของนักเรียน


                ในปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ผมเชื่อว่าทุกคน ต้องได้ พบเห็น สัมผัส เเละ ใช้งานเทคโนโลยี ในชีวิตประจำวันไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นการ การใช้ นาฬิกาปลุกตอนเช้า การใช้เครื่องทำนำ้อุ่นเพื่ออาบน้ำ การใช้โทรทัศน์เพื่อดูรายการที่ชอบเพื่อให้ความบันเทิง การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การใช้รถยนต์เพื่อการเดินทาง การใช้ตู้เย็นเพื่อรักษาความสดของอาหาร การใช้โทรศัท์มือถือเพื่อติดต่อกับผู้อื่น จนถึงกระบวนการ ซึ่งทำให้รูว่าการใช้เทคโนโลยีมีส่วนสำคัญกับชีวิตนักเรียนไม่มากก็น้อย
              

          สำหรับผมคิดว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการใช้ชีวิตประจำวันของผม เเล้วคุณล่ะเทคโนโลยีมีผลกระทบกับชีวิตคุณเเค่ไหน